รอบรู้เรื่องเบรก

                วันนี้ผมมีอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่พบได้บ่อยโดยเฉพาะกับนักขับสายลุย ไม่ว่าจะเป็นการขับรถลุยน้ำ ลุยฝน หรือลุยแดดแรงๆ เหตุการณ์ที่จะพูดถึงก็คือ การที่ผ้าเบรกเกิด “Thermal Shock” ครับ วันนี้เรามาเจาะลึกถึงอาการนี้กัน ไม่แน่เมื่ออ่านบทความนี้กันจนจบแล้ว หลายๆ ท่านอาจเคยพบเจอกับอาการดังกล่าวไม่มากก็น้อยแน่นอน
 

                 ความเสียหายที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างฉับพลัน ทำให้อุณหภูมิที่ผิวและเนื้อในผ้าเบรกมีความแตกต่างกัน ซึ่งเมื่ออุณหภูมิแตกต่างกันก็จะทำให้เนื้อผ้าเบรกบริเวณต่างๆ ขยายตัวไม่เท่ากันทำให้เกิดความเครียดได้ และหากผ้าเบรกเกิดความเครียดมากเกินกว่าที่จะรับไหว ก็จะทำให้เกิดความเสียหายหรือแตกได้ ยกตัวอย่างเช่น แก้วจะแตกเมื่อเทน้ำร้อนลงในแก้วทันที หรือแก้วที่ยังร้อนๆ อยู่แล้ว หากเราเทน้ำเย็นทันทีก็อาจทำให้แก้วแตกได้เช่นกัน
 

                1. พฤติกรรมการขับขี่รถยนต์ด้วยความเร็วสูง หรือบรรทุกหนักมากๆ แล้วเบรกกระทันหรือเบรกหนักๆ จนทำให้ผ้าเบรกมีอุณหภูมิสูง ซึ่งหากเจอกับอุณหภูมิต่ำอย่างกะทันหัน เช่น การขับรถลุยน้ำหรือลุยฝนก็ยิ่งทำให้ผ้าเบรกมีโอกาสเกิด Thermal Shock ได้สูงมากขึ้น

                 2. การขับรถบนเส้นทางลาดชันทำให้มีการเบรกบ่อยๆ โดยเฉพาะรถกระบะบรรทุกหนักที่ขึ้นลงเขาจะ ทำให้ผ้าเบรกเกิดการสะสมอุณหภูมิ ซึ่งอาจสูงถึง 500 องศาเซลเซียส ก็ยิ่งมีโอกาสทำให้เกิด Thermal Shock และเป็นสาเหตุทำให้ผ้าเบรกไหม้หรือแตกครับ

                 3. ระบบเบรกหรือคาร์ลิปเปอร์ติดขัด เป็นเหตุให้ผ้าเบรกเสียดสีตลอดเวลาจนทำให้มีอุณหภูมิสะสมสูงมากๆ ก็เป็นอีกสาเหตุของการเกิด Thermal Shock ครับ นอกจากนั้นยังเหมือนกับข้อ 2 คือ เป็นสาเหตุที่ทำให้ผ้าเบรกไหม้หรือแตก
 

ตัวอย่างลักษณะผ้าเบรกที่เกิด Thermal Shock
 

 

         
          ดังนั้น หากไม่อยากให้เกิด Thermal Shock ก็ต้องหมั่นตรวจสอบระบบเบรกให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ อยู่เสมอ และที่สำคัญไม่แพ้กันคือ เลือกผ้าเบรกให้เหมาะสมกับการใช้งานครับ
 

และความเข้าใจของผู้ใช้งานจริงมาโดยตลอด เพื่อความปลอดภัยในตัวท่านและครอบครัว
 

บทความก่อนหน้า [กรณีศึกษา] Metal Catch คืออะไร? แล้วทำไมถึงก่อให้เกิดเสียงดัง

ติดตามเรื่องราวของเราได้ที่ https://www.facebook.com/CompactBrake

เลือกซื้อผ้าเบรกกับผู้เชี่ยวชาญได้ที่ https://www.compact-brake.com